พวกของที่ดูไม่จำเป็น มันมีประโยชน์บางอย่างแฝงอยู่ในตัวของมันอยู่ครับ และปัญหาก็เช่นกัน
.
บทความนี้เขียนจากคำถามของคุณ พชรวิทย์ ที่ได้เข้ามาถามในคอมเม้นท์ของบทความเขียนขายให้ได้ยอดตอนที่ 3 ครับ
.
บางทีปัญหาที่เราเจอ อาจจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ที่เป็นเรื่องคอขาดบาดตายก็ได้ ขอแค่เป็นความกังวล หรือความรู้สึกที่รบกวนจิตใจอยู่ก็ถือว่าใช้ได้แล้วครับ
.
——————–
.
ยกตัวอย่างเช่นปืนของเล่น มันก็ดูไม่มีประโยชน์อะไรเลย ถ้าไม่มีก็ไม่เสียหาย ประโยชน์ของมันคือแค่มีแล้วเอามาเล่นสนุกๆ บางทีซื้อมาเล่นได้ไม่กี่วันก็เบื่อ นานๆทีก็เอามาปัดฝุนเล่นซักครั้งนึง
.
ของเล่นแบบนี้ดูเผินๆคงไม่เกี่ยวกับปัญหาชีวิตอะไรเลย
.
คราวนี้ลองมาดูไอ้ปืนของเล่นนี้ให้ลึกขึ้นมากันนิดนึงครับ สินค้าของเล่นพวกนี้มักจะวางขายอยู่ในชั้นเดียวกับสินค้าชุดชั้นในผู้หญิง และชุดชั้นในจะอยู่มุมในสุดที่ต้องเดินผ่านของเล่นไปก่อน
.
หมายความว่าคนที่เดินผ่านมุมของเล่นไปดูชุดชั้นในคือ ผู้หญิง และส่วนนึงคือแม่และครอบครัว คนเป็นพ่อส่วนใหญ่ก็คงไม่เดินไปเลือกชุดชั้นในกับผู้หญิงด้วย แปลว่าพ่อกับลูกต้องไปหาที่ลงใกล้ๆแถวนั้น ซึ่งก็ไม่พ้นมุมของเล่นแน่ๆ
.
ลองนึกภาพคุณพ่อมือใหม่เห็นสายตาของลูกชายมองปืนของเล่นสุดล้ำดูนะครับ ผมว่าความกังวลอะไรบางอย่างจะเริ่มครอบงำจิตใจคุณพ่อแล้ว
.
——————–
.
ลองมาดูอีกเคสนึงกันครับ ลองมาดูสินค้าแฟชั่นกันครับ
.
บริบทของมันคือภาพลักษณ์ คนสวย คนหล่อ หรือบางทีก็เป็นภาพลักษณ์คนมีระดับ ในโฆษณา ปริ้นแอด ฯลฯ คือภาพของคนที่ใครซักคนกำลังใฝ่ฝันอยากเป็นอยู่
.
– เราอยากเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ
– เราอยากเป็นคนที่มีระดับ
– เราอยากเป็นคนที่เหนือกว่าผู้อื่น
.
สินค้าแฟชั่นตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ครับคือ
.
“เราต้องการการยอมรับจากผู้อื่น”
.
กลับไปที่บริบทของมัน สินค้าพวกนี้มักจะแฝงข้อความข้างบนอยู่ คุณคือคนสำเร็จ คุณคือคนมีระดับ ฯลฯ และจะมาพร้อมกับราคาที่ไม่สมเหตุสมผล ที่มีแต่คนที่มีฐานะที่จะกล้าควักเงินออกมาซื้อโดยไม่เดือดร้อน
.
ราคาและภาพลักษณ์มันทำให้น่าเชื่อจริงๆว่าต้องเป็นคนที่ “มี” ในระดับนึง ถึงจะครอบคองมันได้
.
กลับมาที่ตัวเราเองครับ ถ้าเราเห็นภาพของคนที่เราอยากเป็น คู่กับสินค้าพวกนี้บ่อยๆ และเราก็จินตนาการว่านาฬิกาสุดหรูกำลังอยู่บนข้อมือเรา พร้อมกับเสื้อเชิ้ดเท่ๆราคาสองหมื่นบาทอยู่บนตัวเรา และเราก็จินตนาการว่าคนในแวดวงสังคมของเราก็เห็น และรับรู้บริบทนี้เช่นกัน
.
“ถ้าของพวกนี้มาอยู่บนตัวเรา แปลว่าเราต้อง ‘ไม่ธรรมดา' ในสายตาคนอื่นแน่ๆ” นี่คือข้อความที่เราอาจจะบอกกับตัวเองอยู่ หลังจากจินตนาการเสร็จเรียบร้อย
.
แต่ปัจจุบันเรายังไม่มี และด้วยความเป็นมนุษย์ เรา “ต้องการยอมรับ” จากผู้อื่น
.
หลังจากจินตนาการเสร็จ ผมว่าความกังวล และความคิดเหล่านี้น่าจะเริ่มรบกวนจิตใจแล้วครับ
.
——————–
.
แล้วถ้าเป็นสินค้าแฟชั่นที่ราคาไม่ได้แพงมากหละ ?
.
อาจจะเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นตามตลาดนัดทั่วไป
.
เรามักจะเห็นบางร้านมีรูปของคนหน้าตาดี ใส่ชุดที่แขวนอยู่บนราว และบางทีแม่ค้าอาจจะพูดระหว่างที่สาวๆกำลังลูบไล้เนื้อผ้าและจินตนาการ (อีกแล้ว) ตอนที่ตัวเองกำลังสวมใส่ชุดนี้ว่า “เนื้อผ้าดี คัทติ้งเนี้ยบ ช่วยเก็บพุงด้วย”
.
– ข้อความจากรูปบอกว่า “ถ้าใส่แล้วชั้นก็น่าจะดูดีเช่นกัน”
– สิ่งที่แม่ค้าพูดต่อมาบอกว่า “อุ๊ยชั้นมีพุง แต่ชุดนี้ช่วยเก็บพุง นี่มันเกิดมาเพื่อชั้นเลย”
.
ถ้าสาวๆวางชุดนั้นกลับไปบนราว และเดินไปกินส้มตำร้านข้างๆต่อ และขยายพุงตัวเอง (ที่ไม่ค่อยมี) เรียบร้อยแล้ว คำว่า “เก็บพุงได้” ของแม่ค้าอาจจะวนเวียนอยู่ในหัวสลับกับเพลงคุ้กกี้เสี่ยงทายที่ร้านส้มตำเปิดซ้ำๆเหมือนสะกดจิตให้เดินกลับไปซื้อเพื่อเยียวยาพุงในจินตนาการของเธอก็ได้
.
——————–
.
– ปืนของเล่น ไม่มีความจำเป็นกับชีวิต แต่ถ้าลูกอยากได้ มันก็ทนไม่ใหวถ้าไม่ซื้อให้
– เสื้อผ้านาฬิกาหรู ไม่มีก็ได้ แต่ถ้าต้องแสดงฐานะทางสังคม มันก็เป็นสิ่งจำเป็นขึ้นมาทันที
– เสื้อผ้ามีอยู่เต็มตู้ แต่ถ้าใส่แล้วดูดีเหมือนในรูป (แถมเก็บพุงได้ด้วย) มันก็น่ามีเพิ่มอีกซักตัว
.
——————–
.
ลองหา “บริบท” ที่สร้างความจำเป็นดูนะครับ
.
ประโยชน์ และปัญหาที่ซ่อนอยู่ในสินค้าแต่ละตัว มันจะค่อยๆชัดเจนขึ้นมาหลังจากที่เราหาบริบทเหล่านั้นจนเจอ
.
ไม่มีก็ไม่ตาย แต่ถ้ามีซักหน่อยก็น่าจะดี
.
น๊อต การตลาด 5 นาที
“ทำให้การตลาดเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ”
. ติดตามบทความเกี่ยวกับการตลาดได้ที่
http://5minmarket.co
อัพเดทบทความส่งตรงถึงมือคุณที่
Line : @5minmarket